งูกินหาง เป็น การละเล่นไทย ที่นิยมเล่นกันทุกภาคของประเทศ พบหลักฐาน การละเล่นเด็กไทย งูกินหาง กันแล้วในงานตรุษสงกรานต์ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2475 การเล่นงูกินหางเป็นการเล่นเลียนแบบชีวิตสัตว์ คือ เลียนแบบลักษณะท่าทางของงูที่มีลำตัวยาวเลื้อยคดไปคดมา นิยมเล่นในงานเทศกาล งานประจำปี และงานรื่นเริงต่างๆ ในสมัยก่อน
งูกินหาง ประวัติ
ความเป็นมาของงูกินหางนั้นไม่แน่ชัด เกมพื้นบ้านสนุกๆ สันนิษฐานว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ จากการค้นพบภาพเขียนบนผนังถ้ำของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่แสดงภาพคนกำลังเล่นงูกินหางอยู่ การเล่นงูกินหางเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคี ความร่วมมือ และการทำงานเป็นทีม

งูกินหาง วิธี การ เล่น
แบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสมมุติบทบาทเป็นแม่งู มีลูกงูเกาะเอวต่อกันตามจำนวนผู้เล่น พบเห็นบ่อยก็ในราว 8–10 คน อีกฝ่ายสมมุติตนเป็นพ่องูผู้โดดเดี่ยว เริ่มเล่นด้วยการเจรจาโต้ตอบกันสั้นยาวตามแต่ละถิ่น และน่าจะมีหลากสำนวน บางสำนวนแสดงถึงเชาวน์ไวไหวพริบด้านภาษาที่หาคำคล้องจองมาโต้ตอบกัน โดยทั่วไปจะเป็นบทสนทนาสั้นๆ ว่า
- พ่องู: แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน
- แม่งู: บ่อน้ำทิพย์ในสวรรค์
- พ่องู: บ่อน้ำทิพย์ในสวรรค์ กินดีหรือไม่
- แม่งู: กินดีกินอร่อย พ่องูอยากกินไหม
- พ่องู: อยากกินจังเลย แต่ว่าแม่งูอยู่ไหน
- แม่งู: แม่งูอยู่ข้างหน้า
เมื่อพ่องูถามคำถามสุดท้ายแล้ว แม่งูก็จะวิ่งหนีไปทางด้านหลัง พ่องูจะไล่ตามไป เมื่อพ่องูจับลูกงูได้ ลูกงูคนนั้นก็จะกลายร่างเป็นพ่องูแทน เกมจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนเหลือคนสุดท้ายที่ไม่โดนจับก็จะเป็นผู้ชนะ
การ เล่น งูกินหาง เป็นเกมที่สนุกสนาน เล่นได้ทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับการละเล่นในครอบครัวหรือหมู่คณะ
แหล่งอ้างอิง
https://th.wikipedia.org/wiki/การละเล่นเด็กไทย